อัจรรย์แห่งพระเกจิดังภาคใต้ หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร สรีระสังขาร ไม่เน่าเปื่อยรวม 34 ปี
หลวงปู่สงฆ์ท่านได้เข้าพำนักอยู่ประจำที่วัดเจ้าฟ้าศาลาลอยนี้ ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพรตั้งแต่ พ.ศ.2462 จนถึงวันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2526 ตรงกับแรม
9 ค่ำ เดือน 8 ปีกุน
เวลาประมาณ 10.00 น. เศษๆ หลวงปู่สงฆ์ได้มรณภาพลงอย่างสงบ สิริอายุได้ 94 ปี 3 เดือน 2 วัน รวมเวลาที่ท่านพำนักอยู่ที่วัดเจ้าฟ้าศาลาลอยทั้งสิ้น 64 ปี
เชื้อจุลินทรีย์ที่เร่งกระบวนการเน่าเปื่อย (Decay Process) เติบโตขึ้นมากหากร่างกายมีการสะสมอาหารไว้น้อยขณะเสียชีวิตเชื้อจะเติบโตได้น้อยหรืออาจจะไม่มีเลย
โดยต้องขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เหมาะสมด้วย
“ส่วน
ใหญ่การไม่เน่าเปื่อยจะพบกับศพที่เป็นเด็กหรือคนแก่อายุ
มากๆ ที่มีการสะสมของไขมันในร่างกายและอาหารน้อย
และในสภาพอากาศ เย็นจัด หรือแห้งจัด”.
..แหล่งข่าวระบุ
และว่า...กรณีแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะพบในประเทศแถบยุโรปหรือในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นสม่ำเสมอตลอดทั้งปี
แต่กรณีนี้ก็พบในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเขตร้อนชื้น
?!?
โดยเฉพาะกับพระเกจิที่เจริญ “สมาธิ-วิปัสสนา” มายาวนาน
กับกรณีเฉพาะ เจาะจงในส่วนของพระเกจินี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยาพยายามอธิบาย โดยบอกว่า...การนั่งสมาธิทำให้จิตกับร่างกายเกิดความนิ่ง
เกิดการเคลื่อนไหวและเผาผลาญในร่างกายน้อยหรือไม่มีเลย การนั่งสมาธิเป็น
เวลานาน ๆ และทำอยู่เป็นประจำๆ จะทำให้กระบวนการเผาผลาญหรือเมตาบอลิสซึ่มในร่างกายเกิดน้อยลง
“การ นั่งสมาธิทำให้ร่างกายสบาย
ร่างกายจะหลั่งสารเอนโดฟินออกมา ก็ทำให้จิตสบาย
ช่วยให้ร่างกายสมดุล ซึ่งอาจจะเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้สังขารไม่เน่าเปื่อย”...
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์
ก็เคยให้ข้อมูลเรื่อง “ศพไม่เน่า”ไว้ เช่นกัน โดยระบุว่า...
ในทาง วิทยาศาสตร์เป็นการเน่าเปื่อยแบบไม่ปกติ
ซึ่งมี 2 ลักษณะ
คือ
1. เกิดการแห้งของศพ
ในสภาพแวดล้อมที่แห้งจัด ไม่มีความชื้น
2. เกิดการเปลี่ยนแปลง
ของไขมันใต้ผิวหนังจนกลายเป็นลักษณะแข็งจับตัวแบบเทียนไข ซึ่งจะเกิด
ในอุณหภูมิเย็นจัด และเกิดเฉพาะกับคนที่รูปร่างเล็กผอมบาง
และมีสุขภาพดีเท่านั้น
ส่วนการนั่งสมาธิและทำสมาธิจะมีส่วนทำให้ศพไม่เน่าได้หรือไม่นั้น
คุณหมอพรทิพย์เคยบอกไว้ว่า...“ยัง ไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
ได้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ที่อยากจะบอกก็คือหากได้พบเห็นหรือ
เจอกรณีอย่างนี้ อยากให้มองเข้าไปให้ถึงแก่นของธรรม
มากกว่าที่จะเชื่อในเชิงไสยศาสตร์หรือเรื่องของโชคลาง”
“ศพไม่เน่า-สังขารไม่ย่อยสลาย” ถึงวันนี้ก็ยังดูลึกลับ
ในเมืองไทยเมืองร้อนนั้นน่าฉงนว่าทำไมเกิดขึ้นมาก
“วิทยาศาสตร์ยังอึ้ง” กับ “อัศจรรย์แห่งพระเกจิ”.
เชื้อจุลินทรีย์ที่เร่งกระบวนการเน่าเปื่อย (Decay Process) เติบโตขึ้นมากหากร่างกายมีการสะสมอาหารไว้น้อยขณะเสียชีวิตเชื้อจะเติบโตได้น้อยหรืออาจจะไม่มีเลย
โดยต้องขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เหมาะสมด้วย “ส่วน
ใหญ่การไม่เน่าเปื่อยจะพบกับศพที่เป็นเด็กหรือคนแก่อายุ มากๆ ที่มีการสะสมของไขมันในร่างกายและอาหารน้อยและในสภาพอากาศ เย็นจัด หรือแห้งจัด”...แหล่งข่าวระบุ
และว่า...กรณีแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะพบในประเทศแถบยุโรปหรือในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นสม่ำเสมอตลอดทั้งปีแต่กรณีนี้ก็พบในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเขตร้อนชื้น
?!?
โดยเฉพาะกับพระเกจิที่เจริญ “สมาธิ-วิปัสสนา” มายาวนาน กับกรณีเฉพาะ เจาะจงในส่วนของพระเกจินี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยาพยายามอธิบาย โดยบอกว่า...การนั่งสมาธิทำให้จิตกับร่างกายเกิดความนิ่ง
เกิดการเคลื่อนไหวและเผาผลาญในร่างกายน้อยหรือไม่มีเลย การนั่งสมาธิเป็น
เวลานาน ๆ และทำอยู่เป็นประจำๆ จะทำให้กระบวนการเผาผลาญหรือเมตาบอลิสซึ่มในร่างกายเกิดน้อยลง
“การ นั่งสมาธิทำให้ร่างกายสบาย
ร่างกายจะหลั่งสารเอนโดฟินออกมา ก็ทำให้จิตสบาย
ช่วยให้ร่างกายสมดุล ซึ่งอาจจะเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้สังขารไม่เน่าเปื่อย”...
ผู้เชี่ยวชาญระบุ ด้านคุณหมอนักชันสูตรศพชื่อดังแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์
ก็เคยให้ข้อมูลเรื่อง “ศพไม่เน่า”ไว้ เช่นกัน โดยระบุว่า...ในทาง วิทยาศาสตร์เป็นการเน่าเปื่อยแบบไม่ปกติ
ซึ่งมี 2 ลักษณะคือ1. เกิดการแห้งของศพ
ในสภาพแวดล้อมที่แห้งจัด ไม่มีความชื้น 2. เกิดการเปลี่ยนแปลง
ของไขมันใต้ผิวหนังจนกลายเป็นลักษณะแข็งจับตัวแบบเทียนไข ซึ่งจะเกิด
ในอุณหภูมิเย็นจัด และเกิดเฉพาะกับคนที่รูปร่างเล็กผอมบางและมีสุขภาพดีเท่านั้น ส่วนการนั่งสมาธิและทำสมาธิจะมีส่วนทำให้ศพไม่เน่าได้หรือไม่นั้นคุณหมอพรทิพย์เคยบอกไว้ว่า...“ยัง ไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ที่อยากจะบอกก็คือหากได้พบเห็นหรือเจอกรณีอย่างนี้ อยากให้มองเข้าไปให้ถึงแก่นของธรรม มากกว่าที่จะเชื่อในเชิงไสยศาสตร์หรือเรื่องของโชคลาง”“ศพไม่เน่า-สังขารไม่ย่อยสลาย” ถึงวันนี้ก็ยังดูลึกลับ ในเมืองไทยเมืองร้อนนั้นน่าฉงนว่าทำไมเกิดขึ้นมาก “วิทยาศาสตร์ยังอึ้ง” กับ “อัศจรรย์แห่งพระเกจิ”.
รอน เบ็คเก็ต กับ เจอรี่ คอนเล็ก 2 นักวิทยาศาสตร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยวินนิเปก
ประเทศสหรัฐอเมริกา บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาขอศึกษาสังขาร หลวงพ่อเพื่อค้นหาคำอธิบาย
ทางคณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพของ
“หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร” ตั้งแต่วันที่ 2-16 สิงหาคม พ.ศ.2526 และได้ทำพิธีปิดศพในคืนวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2526 หลังจากนั้นทุกๆ
คืนจะมีการสวดพระอภิธรรมโดยพระภิกษุสงฆ์ภายในวัด
และโดยเฉพาะในวันอังคารซึ่งกับวันคล้ายวันเกิดและวันมรณภาพของหลวงปู่ท่าน
จะมีการสวดพิเศษคือการสวดในบทอานัตลักขณสูตรและอาทิตปริยายสูตร สลับกันไปทุกๆ
วันอังคารของแต่ละสัปดาห์ และจะมีการสวดครบรอบวันมรณภาพในแต่ละปี ซึ่งตรงกับวันที่
2 สิงหาคม ของทุกๆ ปี โดยจะมีการนิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดชุมพรมาสวดเป็นประจำทุกๆ
ปี
ปัจจุบัน
สรีระสังขารของหลวงปู่ได้ตั้งประดิษฐานอยู่บนศาลา 100 ปี ศาลาธรรมสังเวช วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
เพื่อให้คณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปได้กราบสักการบูชา
แม้ท่านจะมรณภาพรูปกายแตกดับ แต่ท่านยังคงเป็นเทพเจ้าของชาวชุมพรตลอดไปท้ายที่สุดก็ลงความเห็นแบบ “งงๆ” ว่าอวัยวะภายในต่าง ๆ นั้น“ไม่พบว่ามีร่องรอยการย่อยสลายใดๆ” เพียงแค่แห้งและหดตัวเล็กลงบ้างเท่านั้น ?!?ทั้งนี้ กรณีปุถุชนคนทั่วไปตายลงแล้วศพไม่เน่านั้น ในทางวิทยาศาสตร์เคยให้คำอธิบาย อย่างเช่นที่แหล่งข่าวในสถาบันด้านพยาธิวิทยา
เคยบอกว่า...กรณีแบบนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนรูปร่างเล็กผอมบาง
เนื่องจากไม่มีไขมันเป็นตัวเผาผลาญมากหรือไม่ทำให้การสะสมอาหารในร่างกาย
ซึ่งเป็นน้ำเลี้ยงทำให้
ผู้เชี่ยวชาญระบุ ด้านคุณหมอนักชันสูตรศพชื่อดัง
เชื้อจุลินทรีย์ที่เร่งกระบวนการเน่าเปื่อย (Decay Process) เติบโตขึ้นมากหากร่างกายมีการสะสมอาหารไว้น้อยขณะเสียชีวิตเชื้อจะเติบโตได้น้อยหรืออาจจะไม่มีเลย
โดยต้องขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เหมาะสมด้วย
“ส่วน
ใหญ่การไม่เน่าเปื่อยจะพบกับศพที่เป็นเด็กหรือคนแก่อายุ มากๆ ที่มีการสะสมของไขมันในร่างกายและอาหารน้อยและในสภาพอากาศ เย็นจัด หรือแห้งจัด”...แหล่งข่าวระบุ
และว่า...กรณีแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะพบในประเทศแถบยุโรปหรือในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นสม่ำเสมอตลอดทั้งปีแต่กรณีนี้ก็พบในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเขตร้อนชื้น
?!? โดยเฉพาะกับพระเกจิที่เจริญ “สมาธิ-วิปัสสนา” มายาวนาน กับกรณีเฉพาะ เจาะจงในส่วนของพระเกจินี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยาพยายามอธิบาย โดยบอกว่า...การนั่งสมาธิทำให้จิตกับร่างกายเกิดความนิ่ง
เกิดการเคลื่อนไหวและเผาผลาญในร่างกายน้อยหรือไม่มีเลย การนั่งสมาธิเป็น
เวลานาน ๆ และทำอยู่เป็นประจำๆ จะทำให้กระบวนการเผาผลาญหรือเมตาบอลิสซึ่มในร่างกายเกิดน้อยลง
“การ นั่งสมาธิทำให้ร่างกายสบาย
ร่างกายจะหลั่งสารเอนโดฟินออกมา ก็ทำให้จิตสบาย
ช่วยให้ร่างกายสมดุล ซึ่งอาจจะเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้สังขารไม่เน่าเปื่อย”...ผู้เชี่ยวชาญระบุ ด้านคุณหมอนักชันสูตรศพชื่อดังแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์
ก็เคยให้ข้อมูลเรื่อง “ศพไม่เน่า”ไว้ เช่นกัน โดยระบุว่า...ในทาง วิทยาศาสตร์เป็นการเน่าเปื่อยแบบไม่ปกติ
ซึ่งมี 2 ลักษณะคือ1. เกิดการแห้งของศพ
ในสภาพแวดล้อมที่แห้งจัด ไม่มีความชื้น 2. เกิดการเปลี่ยนแปลง
ของไขมันใต้ผิวหนังจนกลายเป็นลักษณะแข็งจับตัวแบบเทียนไข ซึ่งจะเกิด
ในอุณหภูมิเย็นจัด และเกิดเฉพาะกับคนที่รูปร่างเล็กผอมบางและมีสุขภาพดีเท่านั้น ส่วนการนั่งสมาธิและทำสมาธิจะมีส่วนทำให้ศพไม่เน่าได้หรือไม่นั้นคุณหมอพรทิพย์เคยบอกไว้ว่า...“ยัง ไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ที่อยากจะบอกก็คือหากได้พบเห็นหรือเจอกรณีอย่างนี้ อยากให้มองเข้าไปให้ถึงแก่นของธรรม มากกว่าที่จะเชื่อในเชิงไสยศาสตร์หรือเรื่องของโชคลาง”“ศพไม่เน่า-สังขารไม่ย่อยสลาย” ถึงวันนี้ก็ยังดูลึกลับ ในเมืองไทยเมืองร้อนนั้นน่าฉงนว่าทำไมเกิดขึ้นมาก “วิทยาศาสตร์ยังอึ้ง” กับ “อัศจรรย์แห่งพระเกจิ”.
แอดมิน พงษ์พัดชา